ตอนที่ 48
การปกครองเมืองอยุธยา
คนไทยมาจากไหน
เป็นคำถามที่นักประวัติศาสตร์รุมหาคำอธิบาย
เถียงกันไปหลายทฤษฎี
มาสรุปได้ว่าที่น่าเชื่อถือมากที่สุดนั้นคนไทยมาจากทางตอนใต้ของจีน
หรือตอนเหนือของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนรัฐอัสสัมของอินเดีย ไม่ได้มาจากเทือกเขาอัลไต เพราะว่ายังมีคนไทยและคนพวกที่มีลักษณะเหมือนคนไทยในปัจจุบันอาศัยอยู่ในบริเวณนั้น
ๆ
โดยมีลักษณะของวัฒนธรรมร่วมตลอดจนการดำเนินวิถีชีวิตคล้าย ๆ กัน คนไทยคงจะอพยพลงใต้อย่างช้า ๆ
เนื่องจากถูกพวกจีนรุกรานและเห็นว่าพวกขอมกำลังเสื่อมอำนาจก็เลยเข้ามายึดพื้นที่ของขอมแทน
พวกที่ไม่ยอมอพยพลงมาก็อยู่ที่เดิมจนกลายเป็นชนกลุ่มน้อยของประเทศพม่า ลาว
จีน และอินเดียในที่สุด ส่วนเทือกเขาอัลไตไม่มีใครจะไปอยู่ได้เพราะหนาวและเต็มไปด้วยหิมะ
พวกไทยที่อพยพลงมานั้นก็แบ่งเป็น
2 สายตามแม่น้ำสายหลักคือแม่น้ำสาละวิน เรียกว่าพวกไทยใหญ่ และแม่น้ำโขง เรียกว่าพวกไทยน้อย
ส่วนบริเวณที่ตั้งประเทศไทยในปัจจุบันเดิมเป็นที่อยู่ของพวกมอญ ละว้า และขอม
มอญอาศัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาเป็นหลักจนถึงมหาสมุทรอินเดีย ส่วนพวกละว้าอยู่ตรงกลางที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา พวกขอมอยู่ทางทิศตะวันออกของพวกละว้าหรือทางใต้ของลุ่มน้ำโขง
พวกขอมเรืองอำนาจมากสามารถยึดดินแดนของพวกละว้าได้
ส่วนพวกพม่าก็มีอิทธิพลเหนือพวกมอญและเข้าทำสงครามแย่งชิงดินแดนของพวกละว้ากับพวกขอม ในขณะนี้พวกไทยก็อพยพลงมาตั้งรกรากอยู่บริเวณ
แคว้นแสนหวี เมื่อขอมกำลังหมดอำนาจลง
พวกไทยก็เริ่มอพยพเข้ามายึดครองดินแดนบริเวณตอนเหนือของประเทศไทยในปัจจุบัน
และจัดตั้งอาณาจักรสุโขทัยขึ้นในราว พ.ศ. 1800
อาณาจักรสุโขทัยมีกษัตริย์ปกครอง
9 พระองค์ เมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ 7 ซึ่งปกครองโดย พระมหาธรรมราชาที่ 2 ก็ถูกพวกไทยทางใต้ซึ่งปกครองโดยขุนหลวงพะงั่ว
กษัตริย์แห่งอยุธยา เข้ามายึดสุโขทัยได้
พระบรมราชาธิราชที่
1 หรือ ขุนหลวงพระงั่ว เป็นกษัตริย์ปกครองอยุธยา
เมื่อ พ.ศ. 1913 ได้ทำสงครามชนะหัวเมืองทางเหนือ ตั้งแต่ปีแรกที่เป็นกษัตริย์ หัวเมืองทางเหนือจึงตกเป็นประเทศราชขึ้นกับอยุธยา
เมื่อ พ.ศ. 1921 รวมทั้งอาณาจักรสุโขทัยด้วย แต่อาณาจักรอยุธยาก็ปล่อยให้ราชวงศ์พระร่วงของอาณาจักรสุโขทัยปกครองกันเองจนถึงสิ้นสุดสมัยรัชกาลที่
9 โดยพระมหาธรรมราชาที่ 4 ก็หมดเชื้อตระกูลของราชวงศ์พระร่วงอาณาจักรอยุธยาจึงรวมสุโขทัยเข้ามาเป็นอาณาจักรเดียวกัน
เมื่อ พ.ศ. 1981 ซึ่งตรงกับในรัชสมัยของพระเจ้าสามพระยา
อาณาจักรอยุธยาเกิดขึ้นได้อย่างไร
ผู้ก่อตั้งอาณาจักรอยุธยาคือพระเจ้าอู่ทอง
พระเจ้าอู่ทองปกครองเมืองอู่ทอง
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรละโว้(ลพบุรี)
โดยมีเมืองอยุธยาเป็นเมืองหน้าด่านของอาณาจักร
ขณะนั้นอาณาจักรสุโขทัยกำลังเสื่อมอำนาจ เช่นเดียวกับพวกขอม
จึงเป็นโอกาสดีที่จะเข้ายึดเมืองอยุธยา โดยไม่ถูกคุกคามจากสุโขทัย และเมืองอื่น ๆ
พ.ศ. 1893
พระเจ้าอู่ทองยึดเมืองอยุธยาได้แล้วสถาปนาตนเองเป็นพระมหากษัตริย์
และตั้งเมืองอยุธยาเป็นราชธานี โดยย้ายเมืองหลวงจากอู่ทองมาอยู่ที่อยุธยา
เมื่อครั้งพ่อขุนรามคำแหงของอาณาจักรสุโขทัยยกทัพไปปราบเมืองนครศรีธรรมราช
รวมทั้งหัวเมืองทางใต้
เมื่อได้รับชัยชนะแล้วได้เดินทางกลับผ่านเมืองอู่ทองซึ่งเป็นหัวเมืองขึ้นกับสุโขทัย เจ้าเมืองอู่ทองขณะนั้นมีโอรสองค์หนึ่ง
ชื่อขุนหลวงพระงั่ว และมีลูกเขยคนหนึ่งซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้าสิริชัย แห่งเมืองไตรตรึงษ์
โดยมีเชื้อสายพระเจ้าสิริธรรมราชแห่งเมืองนครศรีธรรมราช
พ่อขุนรามคำแหงได้ตั้งชื่อลูกเขยของเจ้าเมืองอู่ทองว่า เจ้าราม และให้เจ้ารามช่วยพ่อตาปกครองเมืองอู่ทอง
เมื่อเจ้าเมืองอู่ทองถึงแก่กรรม
ชาวเมืองเห็นว่าเจ้ารามมีความเข้มแข็ง จึงยกย่องให้เป็นเจ้าเมืองสืบต่อจากพ่อตา
ทั้ง ๆ ที่ขณะนั้นขุนหลวงพระงั่วซึ่งเป็นลูกแท้ ๆ
กลับไม่ได้รับให้ขึ้นเป็นเจ้าเมือง เจ้ารามนั้นเป็นน้องเขยของขุนหลวงพระงั่ว
เมื่อเจ้ารามได้เป็นเจ้าเมืองอู่ทอง
ยังได้ปกครองครองเมืองนครศรีธรรมราช รวมทั้งเมืองไตรตรึงษ์
หลังจากที่เจ้าเมืองทั้งสองถึงแก่กรรมลงอีกด้วย
เมืองอู่ทองตั้งอยู่ที่ราบลุ่มน้ำจระเข้สามพัน ต่อมาลำน้ำเปลี่ยนทิศทาง
เกิดความแห้งแล้งและมีโรคระบาด จำเป็นต้องหาที่ตั้งเมืองใหม่ แรกเริ่มมาตั้งที่ตำบลเวียงเหล็ก
(ในปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวัดพุทไธสวรรค์ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ
พ.ศ. 1896 ) ต่อมาย้ายมาที่ตำบลหนองโสน บึงพระราม
เมื่อเห็นว่าขอมกำลังเสื่อมอำนาจและสุโขทัยอ่อนแอ
จึงย้ายมาตั้งอยุธยาเป็นราชธานีและสถาปนาตนเองเป็นกษัตริย์องค์แรกแห่งอาณาจักรอยุธยา
และขยายอาณาเขตให้กว้างขวาง มีหลายเมืองยอมมาเป็นเมืองขึ้นกับอยุธยาด้วย
และอยุธยาประกาศไม่ขึ้นกับสุโขทัยอีกต่อไป
สุโขทัยไม่มีกำลังยกทัพมาปราบปรามอยุธยาได้
เมื่อแรกตั้งอยุธยานั้นประมาณกันว่า
มีอาณาเขตทิศเหนือถึงเมืองสวรรคโลก ทิศใต้จรดชวา
(อินโดนิเซีย) ทิศตะวันตกจรดมอญ และทิศตะวันออกจรดละโว้ (ลพบุรี) พระเจ้าอู่ทอง ให้พระราเมศวร
ราชโอรส ไปครองเมืองละโว้
ให้ขุนหลวงพระงั่วไปครองเมืองสุพรรณบุรี
เมื่อตั้งอาณาจักรอยุธยาได้
2 ปี อาณาจักรสุโขทัยสมคบกับพระเจ้าบรมพง
กษัตริย์ขอมจะมาปราบปรามอยุธยา พ.ศ. 1895
พระเจ้าอู่ทองจึงมอบหมายให้พระราเมศวร ราชโอรส ยกทัพไปปราบพวกขอม
แต่ไม่สำเร็จ จึงให้ขุนหลวงพระงั่วยกทัพหนุนไปปราบจึงสำเร็จ ได้มณฑลนครราชสีมาและจันทบุรีมาครอบครอง
ส่วนเมืองเขมรปล่อยให้ปกครองกันเองในฐานะประเทศราช
ต้องส่งส่วยบรรณาการตามที่กำหนด
พ.ศ. 1897
สุโขทัยมีการแย่งราชสมบัติกัน พระเจ้าอู่ทองจึงมอบให้ขุนหลวงพระงั่ว ยกทัพไปยึดเมืองชัยนาทซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านของสุโขทัย ต่อมาเมื่อพระเจ้าลิไทของอาณาจักรสุโขทัยได้อำนาจปกครองอาณาจักร
ก็มีการเจรจาขอเมืองชัยนาทคืนไป
การที่พระเจ้าอู่ทองเลือกอยุธยาเป็นราชธานีและประกาศไม่ขึ้นกับอาณาจักรสุโขทัยนั้น
พระองค์ต้องรู้อยู่แล้วว่าอาณาจักรสุโขทัยย่อมไม่พอใจและต้องยกทัพมาปราบปรามเป็นแน่
ไม่ช้าก็เร็ว การที่สุโขทัยไม่สามารถยกทัพมาปราบปรามได้ก็เนื่องจากความอ่อนแอ แต่เมื่อเทียบกับฐานอำนาจเดิมคือพวกขอมนั้น
ขอมกลับอ่อนแอกว่า
เมื่อสุโขทัยสมคบกับขอมเพื่อจะมาปราบอยุธยา อยุธยาจึงเลือกไปปราบพวกขอมเสียก่อน ยังไม่กล้ามาปราบสุโขทัย อีกอย่างหนึ่งนั้นสุโขทัยก็เป็นคนไทยด้วยกัน น่าจะเจรจาง่ายกว่า
การยกทัพไปตีเมืองชัยนาทนั้นก็น่าจะเป็นการยกทัพไปลองกำลังของสุโขทัยในช่วงจังหวะ ที่สุโขทัยเกิดศึกกลางเมือง
อีกอย่างหนึ่งพระเจ้าอู่ทองยังยำเกรงอำนาจเก่าเชื้อสายพ่อขุนรามคำแหงอยู่เหมือนกัน
การเลือกที่ตั้งเมืองหลวงของพระเจ้าอู่ทองนั้น
นับว่าอยุธยาอยู่ในทำเลที่เหมาะสมมากในทุกด้าน
ในด้านการทหารก็เหมาะสำหรับการป้องกันศัตรูที่จะมารุกรานเพราะอยุธยามีแม่น้ำล้อมรอบทุกด้าน เป็นเมืองในเกาะ
ทิศเหนือมีแม่น้ำลพบุรีพาดผ่านมาจนถึงทิศตะวันตก แม่น้ำป่าสักไหลผ่านทางทิศตะวันออก ส่วนทางใต้มีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน ใครจะมาตีกรุงศรีอยุธยาต้องข้ามแม่น้ำสามสายนี้ซึ่งเปรียบเสมือนคูเมืองธรรมชาติที่แข็งแกร่งให้ได้เสียก่อน ในทางการค้าอยุธยาเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคนี้
โดยทางใต้ติดต่อค้าขายกับพวกชวา
ทิศตะวันออกเดินเรือไปค้าขายกับจีนทางอ่าวไทย ทิศตะวันตกค้าขายกับอินเดียและพวกแขกมัวร์แถบเปอร์เซีย
ใน พ.ศ.
1900 พระเจ้าอู่ทองสร้างวัดป่าแก้ว
(วัดใหญ่ชัยมงคล ) เป็นสังฆมณฑลเผยแพร่ศาสนาพุทธจากสำนักลังกาทวีป
พระเจ้าอู่ทองครองราชย์อยู่
19 ปี จึงสวรรคตเมื่อ พ.ศ. 1912